วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สัญญาณไวเลสอันตรายหรือไม่

 ตอบ  ไม่ระบบอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้กระทำความผิดก่อเหตุโดยง่ายแล้วยังทำให้การติดตามตัวผู้กระทำความผิด เป็นไปด้วยความยากลำบากขึ้นอีกด้วย
มันเกิดการกระทำความผิดที่เคลื่อนที่ได้ แล้วการเคลื่อนที่ของมันก็เป็นแบบไร้ทิศทาง อย่างสัญญาณไวร์เลส ซึ่งเป็นสัญญาณวิทยุปัจจุบันสามารถส่งสัญญาณออกไปเป็นรัศมีวงกรมได้ระยะทางประมาณ 100 เมตร หากมีผู้กระทำความผิดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถหาจุดศูนย์กลางได้ว่าอยู่ ณ จุดใด เพราะไวร์เลสเป็นเหมือนสัญญาณวิทยุ มีรัศมีเป็นวงกลม ยิ่งล่าสุดผู้ผลิตได้พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นไปเรื่อยๆ มีไวร์แม็กที่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลกว่าคือ 30-50 กิโลเมตร แถมยังมีตัวเพิ่มสัญญาณได้อีก ดังนั้นการใช้เทคโนโลยี มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ความสามารถในการส่งสัญญาณได้ไกลนี้ เป็นโอกาสของผู้กระทำความผิดที่จะดักขโมยข้อมูลของเราได้จุดไหนก็ได้ โดยที่เราล่วงรู้ได้ยากมากและกว่าจะรู้ตัวข้อมูลของเราก็ไปปรากฏอยู่กับผู้อื่น หรือไม่ก็ตกเป็นผู้เสียหายจากการโจรกรรมไปแล้วพ.ต.ท.พัฒนะ กล่าว ไม่เพียงแต่ระบบไวร์เลสเท่านั้น โทรศัพท์มือถือซึ่งปัจจุบันผู้ขับขี่รถบนท้องถนนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สมอลทอล์ก หรือบลูทูธ ในการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างขับขี่ ผู้ที่ใช้สมอลทอล์กคงไม่มีปัญหา แต่กรณีที่ใช้บลูทูธ ขอเตือนว่าอาจเสี่ยงกับการถูกขโมยข้อมูลลับที่อยู่ในโทรศัพท์ โดยไม่รู้ตัว และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นหากมีการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคารผ่านโทรศัพท์ ซึ่งทำได้ทั้งโทรศัพท์บ้านและโทรศัพท์มือถือ ก็อาจถูกกล่าวมิจฉาชีพใช้เครื่องมือดักจับสัญญาณการสนทนาระหว่างลูกค้ากับเจ้าหน้าที่ธนาคารบางครั้งอาจปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกถามข้อมูลสำคัญ และรหัสผ่านต่างๆ อย่างมืออาชีพโดยที่ลูกค้าไม่ระแวงสงสัย ยิ่งเป็นการสนทนาผ่านบลูทูธ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผู้กระทำความผิดดักจับสัญญาณบลูทูธซึ่งเปิดอยู่ตลอดเวลาได้ง่ายขึ้น โดยแฮกเกอร์จะใช้ย่านธุรกิจหรือห้างสรรพสินค้าที่มีคนพลุกพล่านเป็นที่ลงมือ โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน มุ่งเป้าประชาชนที่เปิดบลูทูธไว้ โดยที่แฮกเกอร์จะมีโปรแกรมและเครื่องมือพิเศษ ที่สามารถสแกนหาสัญญาณบลูทูธในรัศมีที่ปัจจุบันไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น หากพบสัญญาณ โปรแกรมดังกล่าวจะโชว์หมายเลขโทรศัพท์และชื่อของเจ้าของเครื่องนั้นๆ แฮกเกอร์จะทดลองเจาะเข้าไปทีละเครื่องโดยการส่ง SMS ด้วยข้อความล่อลวงต่างๆ เพียงเพื่อให้ประชาชนกดปุ่มใดปุ่มหนึ่งบนโทรศัพท์ และไม่ว่าจะเลือกกดปุ่มใดแฮกเกอร์ก็สามารถทำให้เป็นการตอบตกลงตามข้อเสนอ ผลที่ออกมาก็เหมือนเป็นการยืนยันการต่อสัญญาณให้แฮกเกอร์ หลังจากนั้นก็จะขโมยข้อมูลทั้งหมด และอาจมุ่งเป้าไปที่การทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์ เพราะหากมันทำสำเร็จนั่นหมายความว่า ทรัพย์ที่ได้จากการโจรกรรมจะมีมูลค่ามหาศาลทีเดียว ดังนั้น จึงเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการใช้ระบบสื่อสารไร้สาย ทั้งไวร์เลสและบลูทูธว่า ไม่ควรเชื่อมต่อระบบไวร์เลสกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊กที่มีข้อมูลสำคัญ หากจะเก็บข้อมูลสำคัญควรเก็บไว้ในที่ๆ แฮกเกอร์เข้าถึงยาก เช่น แฟลชไดร์ เอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ซีดี และควรเข้ารหัสข้อมูลที่สำคัญ เป็นต้น ยิ่งนำไปใช้ในที่สาธารณะควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ส่วนกรณีของผู้ที่จำเป็นต้องใช้บลูทูธ ไม่ควรเก็บข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นความลับไว้ในโทรศัพท์ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้บูลทูธ ก็ให้ปิดสัญญาณ และหากมีความจำเป็นต้องทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร
ก็ไม่ควรจะใช้ในที่สาธารณะก็จะปลอดภัยที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น